Class Project / FRA 500 Human Robotics Interface

Class Project : VR Health

วัตถุประสงค์

  1. เพิ่ม health awareness
    เพิ่มการตื่นตัวในเรื่องสุขภาพให้กับบุคลลทั่วไป โดยใช้ gamification ในการดึงดูดให้การตรวจสุขภาพด้วยตนเองน่าสนใจและแปลกใหม่ไปจากเดิม โดยใช้ VR
  2. สอนการตรวจสุขภาพเบื้องต้น
    สอนให้ผู้ใช้สามารถตรวจสุขภาพเบื้องต้นด้วยตนเองได้อย่างถูกต้อง และลดระยะเวลาในการเรียนรู้ ไม่ต้องไปสืบค้นด้วยตนเอง
  3. เพิ่มอัตราการพบอาการป่วย
    เพิ่มอัตราการพบโรคร้ายแรงต่างๆ (มะเร็งต่อมไร้ท่อ, มะเร็งเต้านม เป็นต้น) ก่อนที่จะเกินการรักษาได้ ลดความเสี่ยงในการรู้ตัวเมื่อสายเกินไป

ภาพรวมของระบบ

  1. Hardware
    – Meta Quest 2
    – Azure Kinect DK
  2. Hardware Set up
    ผู้ใช้ สวมใส่ Meta Quest 2 นั่งบนเก้าอี้ ข้างหน้ามี Azure Kinect Dk บันทึกภาพของผู้ใช้
  3. Software
    – Unity
    – Azure Kinect Body Tracking SDK
  4. Step ของการใช้งาน
    1) สวม Meta Quest 2 และ กดเริ่มใช้งาน
    2) ทำ gesture ที่ 1: แตะที่ปลายคาง
    3) ทำ gesture ที่ 2: แตะที่ไหปลาร้า
    4) ทำ gesture ที่ 3: แตะที่ข้อศอก
    5) กรอก email และ กดจบการใช้งาน

ภาพการใช้งานของระบบ

สวม Meta Quest 2

ทำ gesture ที่ 1: แตะที่ปลายคาง
https://drive.google.com/file/d/1yqds9falS3KX9fJrjN6hEl2LYl-smXD3/view?usp=sharing

ทำ gesture ที่ 2: แตะที่ไหปลาร้า
https://drive.google.com/file/d/1NzhpMd7ol7MQKyMytvg6eXxsoe12U7Mu/view?usp=sharing

ทำ gesture ที่ 3: แตะที่ข้อศอก
https://drive.google.com/file/d/1f-JBaOk33Qlt65S5g-7wECrHCqcg3hDi/view?usp=sharing

ผลการทดสอบกับผู้ใช้งาน

  1. กลุ่มผู้ใช้งาน
    – ไม่มี Health Awareness และ ไม่มี Tech Awareness (1 คน)
    – ไม่มี Health Awareness และ มี Tech Awareness (1 คน)
    – มี Health Awareness และ ไม่มี Tech Awareness (1 คน)
    – มี Health Awareness และ มี Tech Awareness (0 คน)
    * มี Health Awareness = ผู้ใช้งานที่รู้จักและเคยตรวจสุขภาพด้วยตนเอง
    * มี Tech Awareness = ผู้ใช้งานที่รู้จักและเคยใช้ VR
  2. ขั้นตอนในการทำ Usability Test
    – ให้ผู้ใช้งานลองเล่น VR Health โดยที่จับเวลาในการใช้งาน แบ่งตามข้อในการทดสอบ
    – เมื่อผู้ใช้งานใช้เวลาในแต่ละขึ้นตอนเกิน 5 นาที จะเข้าไป interfere โดยช่วย guide ด้วยการพูดบอก
    – สัมภาษณ์ผู้ใช้งานด้วยชุดคำถาม ดังนี้
    1) จุดไหนที่ชอบใน VR Health
    2) จุดไหนที่ไม่ชอบใน VR Health
    3) ถ้ามีโอกาส ผู้ใช้งานจะแนะนำ VR Health ให้คนรอบตัวลองใช้งานหรือไม่
    – ให้คะแนนใน 2 หัวข้อ ความพึงพอใจ และ ความเข้าใจในระบบ โดยความพึงพอใจจะอ้างอิงมาจากคำตอบจากการสัมภาษณ์และ
    ท่าทางของผู้ใช้งานขณะใช้งานระบบ ส่วนความเข้าใจในระบบจะอ้างอิงมาจากเวลาที่ผู้ใช้งานใช้งานระบบ (ได้เต็มเมื่อสามารถ
    ทำเสร็จก่อน 15 นาที และได้ 0 คะแนนเมื่อใช้เวลามากกว่า 30 นาที)
  3. ผลการทำ Usability Test
    จากผลการทำ Usability Test พบว่า VR Health ได้คะแนนเฉลี่ย 2.67 /5 (54%) ซึ่งเกิน 50% แต่ว่าจากการสัมภาษณ์ ทางผู้ใช้งานไม่มีใครที่อยากแนะนำให้คนรอบตัวใช้งานต่อ อาจจะเป็นที่อายุของผู้ใช้งาน (30-65 ปี) ที่ไม่ค่อยชอบการเล่นเกม

    จากคำแนะนำของผู้ใช้งาน
    – อาจจะเพิ่ม gimmick ให้เป็นเกมมากกว่าเป็นบททดสอบ
    – เพิ่มมีเสียงพูดอธิบาย gesture ที่ต้องทํา ให้ user เพื่อลด learning process ให้ใช้เวลาน้อยลง
    – ในชุดการตรวจสุขภาพเบื้องต้นชุดนี้มีเพียง 3 ท่าทาง มีอีก 12 ท่าทางที่ควรจะทํา ในการตรวจสุขภาพเบื้องต้น
    – หากผู้ใช้งานไม่ใช้คนที่มี Tech Awareness มีการเรียนรู้ด้วยสื่อ VR Health ช้า อาจจะไม่เหมาะกับคนในกลุ่มนี้