โครงงานค่าย 2B-KMUTT รุ่นที่ 19

ที่มาเเละความสำคัญ
จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2567 พบว่า มีมากกว่า 1.3 ล้านครัวเรือนที่ผู้สูงอายุอาศัยอยู่ตามลำพัง
และจากการวิจัยด้านสาธารณสุข:
ผู้สูงอายุมีโอกาสหกล้มถึง 30% / ปี เเละ ผู้สูงอายุอายุ 80 ปีขึ้นไปมีโอกาสหกล้มสูงถึง 60%

ผู้สูงอายุที่ขาดปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าและสมองเสื่อม

มีเพียง 26.3% ของผู้สูงอายุเท่านั้นที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

ด้วยเหตุนี้ ทีมจึงพัฒนา “CareBot” ขึ้นมาเพื่อนำเทคโนโลยีมาช่วยดูแลผู้สูงอายุทั้งในด้านร่างกาย จิตใจ และความปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจำวัน
วัตถุประสงค์ของโครงงาน

- พัฒนาระบบตรวจจับการล้มและภาวะผิดปกติของผู้สูงอายุแบบเรียลไทม์
- สร้างระบบ ChatBot ที่สามารถพูดคุยเพื่อลดความเหงาและส่งเสริมสุขภาพจิต
- พัฒนาเกมออกกำลังกายแบบ VR ให้ผู้สูงอายุสามารถเคลื่อนไหวได้แม้อยู่ในบ้าน
ขอบเขตโครงงาน

โครงงาน CareBot ดำเนินการภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาระบบในฝั่งซอฟต์แวร์ เช่น การใช้ Python, API, VS Code, และ WebCam ร่วมกับอุปกรณ์ VR (Oculus Quest 2) เพื่อสร้างเกมสำหรับส่งเสริมการเคลื่อนไหวของผู้สูงอายุที่อยู่บ้านเพียงลำพัง
กลุ่มเป้าหมายหลักคือผู้สูงอายุในบ้านเดี่ยวที่อาศัยอยู่ตามลำพัง โดยใช้ทรัพยากรอย่างจำกัด ทั้งด้านเวลา งบประมาณ (ไม่เกิน 2,500 บาท) และอุปกรณ์ที่มีอยู่
ขอบเขตของงานจึงเน้นเฉพาะระบบต้นแบบในระดับ Software Agent 1 และยังไม่รวมถึงการพัฒนา Hardware จริงในครั้งนี้
โครงสร้างระบบหลักของ CareBot

1. ระบบ AI Detect

หลักการทำงาน
- ใช้ MediaPipe Pose ตรวจจับ keypoints บนร่างกาย
- นำจุด Nose กับ Hip มาวิเคราะห์ความขนานกับพื้น เพื่อแยกแยะว่าเป็นท่ายืน นั่ง หรือล้ม
- หากอยู่ในแนวขนานกับพื้นมากผิดปกติ จะถือว่าเป็นการล้ม และระบบจะแจ้งเตือน
ข้อจำกัด
- ต้องตั้งกล้องในมุมตรงขนานกับลำตัวเพื่อให้ตรวจจับได้แม่นยำ
- ท่าทางที่ซับซ้อนหรืออยู่นอก logic มาตรฐานอาจไม่สามารถตรวจจับได้
2. ระบบ AI ChatBot

หลักการทำงาน
- รับเสียงพูดจากผู้ใช้งาน → แปลงเป็นข้อความด้วย SpeechRecognition
- ส่งข้อความไปยังโมเดล AI บน Groq API → รับข้อความตอบกลับ
- แปลงข้อความตอบกลับเป็นเสียงด้วย pyttsx3
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระหว่างการพัฒนา
- เริ่มต้นด้วย OpenAI API แต่เปลี่ยนเพราะมีค่าใช้จ่ายสูง
- ทดลองใช้ DeepSeek แบบออฟไลน์แต่ไม่สามารถรันได้บนเครื่อง
- สุดท้ายเปลี่ยนมาใช้ Groq API ซึ่งใช้งานฟรีและตอบสนองได้ดี
ข้อจำกัด
- ยังไม่สามารถสนทนาแบบต่อเนื่อง real-time ได้ ต้องรอให้พูดจบก่อนจึงจะพูดใหม่ได้
- บทสนทนาของ ChatBot มีความจริงจังและเน้นสาระมาก ไม่เหมาะกับการพูดคุยเล่นอย่างเดียว
3. ระบบ VR Exercise

หลักการทำงาน
- พัฒนาเกมออกกำลังกายด้วย Unity บน Oculus Quest 2
- ผู้สูงอายุสามารถเคลื่อนไหวและออกกำลังกายแบบปลอดภัยในบ้าน
- เกมถูกออกแบบให้เรียบง่ายแต่สนุก และช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของร่างกาย
ข้อจำกัด
- ระบบยังต้องใช้ Controller แทนการเคลื่อนไหวของร่างกายจริง
- ระยะเวลาการพัฒนาในค่ายจำกัด ทำให้ยังไม่สามารถพัฒนาให้สมบูรณ์แบบได้ทั้งหมด
เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ใช้
ประเภท | รายการ |
---|---|
Hardware | Webcam, Oculus Quest 2 |
Software | Python, Visual Studio Code, Unity, MediaPipe, pyttsx3 |
API/AI | Groq API, SpeechRecognition |
Library เพิ่มเติม | OpenCV, FastAPI, Uvicorn |
ปัญหาและการแก้ไข
ปัญหา | วิธีแก้ |
---|---|
ค่าใช้จ่าย OpenAI | เปลี่ยนไปใช้ Groq API ที่ใช้งานฟรี |
DeepSeek ใช้ทรัพยากรสูงเกินไป | ไม่สามารถรันแบบออฟไลน์ได้ จึงตัดออกจากระบบ |
MediaPipe Logic เดิมไม่แม่น | ปรับ logic เป็นการวิเคราะห์แนวระนาบระหว่าง Nose กับ Hip |
ระบบ ChatBot ต้องรอให้พูดจบก่อนถึงจะรับคำสั่งใหม่ | ออกแบบระบบให้โต้ตอบเป็นรอบ ๆ แทนการพูดแทรกทันที |
VR ยังต้องใช้ Controller | อยู่ในแผนพัฒนาเพื่อเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวจริงในอนาคต |
ผลการทดลอง
ระบบ AI Detect ตรวจจับการล้มได้แม่นยำ โดยเฉพาะในท่าทางที่ตรงกับ logic ที่กำหนดไว้

ระบบ ChatBot ช่วยลดความเหงาให้ผู้สูงอายุ และทำงานได้แม้ใช้เพียงคอมพิวเตอร์ธรรมดา

ระบบ VR ทำให้ผู้สูงอายุสามารถออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน แม้ยังต้องพัฒนาเพิ่มในอนาคต

โครงงาน CareBot ผสานเทคโนโลยี AI, ChatBot และ VR เพื่อแก้ปัญหาใหญ่ของสังคมสูงวัยในประเทศไทย เพื่อผู้สูงอายุที่ต้องใช้ชีวิตตามลำพัง ซึ่งมีความเสี่ยงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
แม้ว่าโครงงานจะยังมีข้อจำกัดอยู่ในบางด้าน แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความเป็นไปได้ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เน้น “ความเข้าใจมนุษย์” มากขึ้น ทั้งในด้านความปลอดภัย สุขภาพ และความสัมพันธ์ทางสังคม
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลาในระหว่างเข้าร่วมโครงการ 2B-KMUTT ทำให้การพัฒนาโครงงานครั้งนี้ ยังอยู่ในระดับของ Software Agent 1 เท่านั้น โดยเน้นการสร้างต้นแบบระบบผ่านซอฟต์แวร์ทั้งหมด ทั้งในส่วนของระบบตรวจจับการล้ม (AI Detect) ระบบสนทนาอัตโนมัติ (AI Chatbot) และเกมเสมือนจริง (VR) โดยยังไม่ได้มีการต่อยอดสู่การใช้งานร่วมกับ Hardware จริง เช่น ระบบหุ่นยนต์เคลื่อนที่ หรืออุปกรณ์ตรวจจับภายนอก
“CareBot ไม่ใช่แค่โปรเจกต์ทดลองในค่าย แต่เป็นแนวคิดที่สามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์จริงในอนาคตได้อย่างแท้จริง”

ลิงก์สำหรับดาวน์โหลดเอกสารโครงงาน
เข้าถึงเอกสารโครงงาน (Google Drive
ผู้จัดทำโครงงาน
โครงงานนวัตกรรม CareBot : ระบบอัจฉริยะเพื่อดูแลผู้สูงอายุด้วยเทคโนโลยี AI และ VR
เป็นผลงานที่พัฒนาภายใต้โครงการ 2B-KMUTT รุ่นที่ 19 ประจำปี พ.ศ. 2568
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาสังคมผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพัง ด้วยการผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และโลกเสมือนจริงเข้าด้วยกันอย่างสร้างสรรค์และเกิดประโยชน์ต่อสังคม
จัดทำโดย
- นาย ปุณณะ เขมะสิงคิ
- นางสาว ภัชขวัญ พ่วงพี
อาจารย์ที่ปรึกษา
- รองศาสตราจารย์ ดร. สยาม เจริญเสียง
- นางสาว พูนสิริ ใจลังการ์
- นาย เชาวลิต ธรรมทินโน
กลุ่มวิจัย
กลุ่มวิจัยวิศวกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ
สถาบันหุ่นยนต์ภาคสนาม
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
โครงการ 2B-KMUTT รุ่นที่ 19
ประจำปี พ.ศ. 2568